วิชาการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน

 

การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน

  • เขียนโดย :
  • ที่ : วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2563
  • 0 Comments

การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน

           การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียนตามรูปแบบ The STUDIES Model  จุดสำคัญเพื่อตอบสนองหลักการและเหตุผลสำคัญในการกำหนดแนวทางพัฒนาวิชาชีพครูตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542  มาตรา 9 (4) ที่ได้กำหนดบทบัญญัติให้มีหลักการส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา  การพัฒนาครู คณาจารย์  และบุคลากรทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง           
          รูปแบบ The STUDIES Model  มุ่งพัฒนานักศึกษาวิชาชีพครูให้มีความรู้ ความสามารถ คุณลักษณะความเป็นครูตามมาตรฐานวิชาชีพ  ตามที่คุรุสภาได้ประกาศเกณฑ์มาตรฐานวิชาชีพใดและสอดคล้องกับแนวคิดอาจารย์มืออาชีพแนวคิดเครื่องมือและการพัฒนา ( ไพฑูรย์  สินลารัตน์ 2550 บรรณาธิการเครือข่ายการพัฒนาวิชาชีพอาจารย์และองค์กรอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย) ในการปรับปรุงคุณภาพด้านการเรียนการสอนของสถาบันอุดมศึกษาในประเด็นการพัฒนาการเรียนการสอนที่เน้นสัมฤทธิ์ผลในการปรับปรุงศักยภาพการเรียนของนักศึกษาผ่านกระบวนการเรียนการสอนเป็นหลัก

กรอบแนวคิดที่มา The STUDIES Model
     รูปแบบ The STUDIES Model เป็นผลสืบเนื่องจากการศึกษาวิจัยเพื่อส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้
และการจัดการชั้นเรียนสำหรับนักศึกษาวิชาชีพครูศึกษาวิเคราะห์หลักการแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยแนวนโยบายแห่งรัฐในรูปแบบการจัดการศึกษายุคไทยแลนด์ 4.0   หรือการศึกษา 4.0 มาตรฐานวิชาชีพครู พ.ศ. 2556  แนวคิดการจัดการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ (constructivist learning method : clm ) การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล (Universal Design of Instruction ; UDI ) การวัดผลการเรียนรู้การกำหนดระดับความเข้าใจในการกำหนดค่าระดับคุณภาพการเรียนรู้ตามแนวคิด Solo Taxonomy การศึกษาวิจัยได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เรียกว่า The studies model  model โมเดลมีรายละเอียดกรอบแนวคิด ( The STUDIES model framework ) 
ดังแผนภาพประกอบที่ 1
ภาพประกอบที่1 กรอบแนวคิดในการพัฒนารูปแบบ The STUDIES Model

รูปแบบ The STUDIES Model โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พิจิตรา ธงพานิช


               รูปแบบ The STUDIES Model  จุดมุ่งหมายเพื่อให้นักศึกษาวิชาชีพครูมีความรู้ความเข้าใจบทบาทที่สำคัญในฐานะผู้เรียนที่จะต้องศึกษาศาสตร์การสอนและมีบทบาทในฐานะผู้สอนที่จะนำความรู้ไปจัดการเรียนรู้และจัดการชั้นเรียนรายละเอียดดังภาพประกอบที่ 2




 ภาพประกอบที่ 2 รูปแบบ The STUDIES Model 
 ที่มา พิจิตรา ธงพานิช การพัฒนารูปแบบ  The STUDIES Model   เพื่อส่งเสริมความสามารถในการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียนสำหรับนักศึกษาวิชาชีพครู  2561 : 7

รูปแบบ The STUDIES Model  มี 7 ขั้นตอนดังรายละเอียดต่อไปนี้

s :   กำหนดจุดมุ่งหมายการเรียนรู้  (setting learning goals)การกำหนดจุดหมายการเรียนรู้    ผู้เรียนต้องระบุจุดหมาย
การเรียนรู้ (goals)ด้วยการระบุความรู้และการปฏิบัติ โดยการระบุความรู้ในรูปแบบของ
สารสนเทศ(declarative knowledge)และระบุทักษะ การปฏิบัติ กระบวนการ(procedural knowledge )จุดหมายการเรียนรู้ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยจำนวนของบทเรียนปริมาตรเนื้อหาสาระหรือความรู้สูงสุดแต่หมายถึงความคาดหวังที่จะเรียนรู้ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งและเจตนาที่จะให้ผู้เรียนแสดงถึงสิ่งที่ได้เรียนรู้


T : วิเคราะห์ภาระงาน (Task Analysis) ศึกษาข้อมูลต่างๆ เพื่อให้ได้ความรู้(knowledge) ทักษะ(Skill) และเจตคติ(Attitude) ที่เกี่ยวข้อง  เพื่อการอธิบายภาระงานหรอกิจกรรมที่ช่วยนำทางผู้เรียนไปสู่จุดหมายการเรียนรู้  การวิเคราะห์งานจะเขียนแสดงความสัมพันธ์ด้วย KSA diagram คือ Knowledge-Skill-Attitudes


U : การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล (Universal Design for Instruction UDI) เป็นการออกแบบการสอนที่ครูมีบทบาทเป็นผู้ดำเนินการเชิงรุก (proactive) เกี่ยวกับการผลิตหรือจัดหาจัดทำหรือชี้แนะผลิตภัณฑ์การศึกษา (educational products (computers, websites, software, textbooks, and ab equipment) และสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ (dormitories, classrooms, student union buildings, libraries, and distance learning courses). ที่จะระบุถึงในทุกขั้นตอนของการเรียนการสอน



D : การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital Learning) การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลเป็นการเรียนรู้ผ่านเครือข่าย เช่น เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social networking) การแชร์ภาพ และการใช้อินเทอร์เน็ตแบบเคลื่อนที่ เป็นต้น การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลมีนัยมากกว่าการเรียรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ แต่ยังครอบคลุมถึงประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับเนื้อหา(content) จริยธรรม สังคม และการสะท้อน(Reflection) ซึ่งฝังอยู่ในการเรียนรู้ การทำงาน และชีวิตประจำวัน

         
I : การบูรณาการความรู้ (Integrated Knowledge) การเชื่อมโยงความรู้ที่เกี่ยวข้องภายในศาสตร์ต่างๆ ของรายวิชาเดียวกันหรือหลากหลายวิชาเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ได้ในชีวิตจริง ในการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ (Integrated learning Managgemant) เป็นกระบวนการจัดประสบการณ์โดยเชื่อมโยงสาระความรู้ของศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้ผู้เรียนได้รับความรู้ ทักษะ และเจตคติ
          
E : การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน (Evaluation to Improve Teaching) การประเมินการเรียนรู้ของตนเอง โดยกำหนดค่าคะแนจากการวิเคราะห์การประเมินการเรียนรู้ด้านความรู้ (Cognitive Domain) ของบลูม (Bloom’s Taxonomy) การประเมินตามสภาพจริงและการประเมินจากแฟ้มสะสมผลงาน เป็นการตรวจสอบการบรรลุจุดหมายการเรียนรู้

S : การประเมินอิงมาตรฐาน (Standard Based assessment) การประเมินคุณภาพการเรียนรู้อิงมาตรฐาน โดยใช้แนวคิดพื้นฐานโครงสร้างการสังเกตผลการเรียนรู้ (Structure of Observed Learning Outcomes : SOLO Taxonomy) มากำหนดระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นการตรวจสอบคุณภาพการเรียนรู้ รวมถึงมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก


การปรับปรุงรายวิชา
        
             สาขาวิชาหลักและนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม ได้ปรับปรุงหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต พ.ศ.2556 เป็นหลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต ปรับปรุง พ.ศ.2561 และปรับเปลี่ยนรายวิชา การออกแบบและการจัดการเรียนรู้ (Instructional Design and Management) เป็นรายวิชาการจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน (Instructional and Classroom Management) รายละเอียดการปรับปรุง คือ ชื่อรายวิชา รหัสวิชา จำนวนชั่วโมงในการจัดการเรียนการสอน และคำอธิบายรายวิชา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อให้สาระและสมรรถนะในการเรียนรู้สอดคล้องกับมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ที่คุรุสภากำหนด หนังสือ The STUDIES Model : การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน เพื่อตอบสนองความต้องการในการเรียนรู้ดังกล่าว

 รูปแบบ The STUDIES Model 
                รูปแบบ The STUDIES Model  จุดมุ่งหมายเพื่อให้นักศึกษาวิชาชีพครูมีความรู้ความเข้าใจบทบาทที่สำคัญใน ฐานะผู้เรียนที่จะต้องศึกษาศาสตร์การสอนและมีบทบาทในฐานะผู้สอนที่จะนำความ รู้ไปจัดการเรียนรู้และจัดการชั้นเรียน










รูปแบบ The STUDIES Model

การออกแบบการเรียนการสอนตามรูปแบบThe STUDIES Model ประกอบด้วย 7 ขั้นตอน ดังนี้
 ขั้นที่ 1 การกำหนดจุดหมายการเรียนรู้ (Setting learning goals)
ขั้นที่ 2 การวิเคราะห์ภาระงาน (Task Analysis)
ขั้นที่ 3 การออกแบบการเรียนการสอนที่เป็นสากล (Universal Design for Instruction UDI)
ขั้นที่ 4 การเรียนรู้จากสื่อดิจิทัล (Digital Learning)
ขั้นที่ 5 การบูรณาการความรู้ (Integrated Knowledge)
ขั้นที่ 6 การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน (Evaluation to Improve Teaching)
ขั้นที่ การประเมินอิงมาตรฐาน (Standard Based assessment)


ตรวจสอบและทบทวน

         
     สืบค้นมาตรฐานวิชาชีพครูตามข้อบังคับคุรุสภา  มาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ.2556  มาตรฐานด้านความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ  มาตรฐานที่ 6  การจัดการเรียนรู้และการจัดการในชั้นเรียน  นำมากำหนดจุดหมาย  (Goals)  ในการศึกษารายวิชาเพื่อบรรลุมาตรฐานดังกล่าวนี้ 
มาตรฐานความรู้
         ข้อ บังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ.2556 เพิ่มมาตรฐานวิชาชีพครูเป็น 11 มาตรฐาน (จากเดิมมีเพียง มาตรฐาน) โดยเพิ่ม มาตรฐาน  เพิ่มมาตรฐาน “ปรัชญาการศึกษา” , “คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ” และได้จัดให้มาตรฐาน “การจัดการเรียนรู้” และ การบริหารจัดการในห้องเรียน” จากเดิมที่แยกเป็น มาตรฐาน รวมไว้ด้วยกันเป็น มาตรฐาน และเปลี่ยนแปลงบางมาตรฐานเช่น เดิม มาตรฐานภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู ก็เปลี่ยนเป็น ภาษาและวัฒนธรรมแทน
มาตรฐานความรู้ ทั้ง 11 มาตรฐาน  ประกอบด้วยความรู้ดังต่อไปนี้
              1.ความเป็นครู
              2.ปรัชญาการศึกษา  ( เพิ่มเติม )
              3.ภาษาและวัฒนธรรม (เดิม ภาษาและเทคโนโลยีสำหรับครู”)
             4.จิตวิทยาสำหรับครู
             5.การพัฒนาหลักสูตร 
             6.การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน (รวมจาก มาตรฐานเป็น มาตรฐาน)
             7.การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ (เดิม การวิจัยทางการศึกษา”)
            8.นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
            9.การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้
           10.การประกันคุณภาพการศึกษา
           11.คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ  ( เพิ่มเติม )  


มาตรฐานที่ การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน
การกำหนดจุดมุ่งหมายในการศึกษารายวิชาเพื่อบรรลุมาตรฐาน
1. ทฤษฏีและหลักการบริหารจัดการ
2. ภาวะผู้นำทางการศึกษา
3. การคิดอย่างเป็นระบบ
4. การเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร
5. มนุษย์สัมพันธ์ในองค์กร
6. การติดต่อสื่อสารในองค์กร
7. การบริหารจัดการชั้นเรียน
8. การประกันคุณภาพการศึกษา
9. การทำงานเป็นทีม
10. การจัดทำโครงงานทางวิชาการ
11. การจัดโครงการฝึกอาชีพ
12. การจัดโครงการและกิจกรรมเพื่อพัฒนา
13. การจัดระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการ
14. การศึกษาเพื่อพัฒนาชุมชน




Total comment

Author

por-yuthana

0   ความคิดเห็น

Cancel Reply